นโยบายความเป็นส่วนตัว

นโยบายความเป็นส่วนตัวและการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

Version 1.1 วันที่ 17 สิงหาคม 2565

บริษัท บุญถาวรเซรามิค จำกัด และบริษัทในเครือ (“บริษัทฯ”) ตระหนักถึงความสำคัญของความเป็นส่วนตัว และการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และมีการกำกับดูแล และการบริหารจัดการข้อมูลส่วนบุคคล ให้มีความสอดคล้องกับกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และกฏหมายที่เกี่ยวข้อง จึงขอแจ้งข้อมูลดังต่อไปนี้ให้ท่านทราบเพื่อเป็นการปฏิบัติตาม พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 โดยมีสาระสำคัญดังต่อไปนี้ 

  1. ข้อมูลส่วนบุคคล

1.1 ลักษณะของข้อมูลส่วนบุคคล

ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลใด ๆ ที่เกี่ยวกับบุคคลธรรมดาที่ทำให้สามารถระบุถึงตัวบุคคลธรรมดานั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม โดยไม่รวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ถึงแก่กรรม

ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ (เช่น การสแกนลายนิ้วมือ การสแกนใบหน้า เป็นต้น) หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด

1.2 ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการเก็บรวบรวม

ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯเก็บรวบรวมภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้องมีดังต่อไปนี้

  • ข้อมูลส่วนตัว:  ชื่อ นามสกุล เพศ วันเดือนปีเกิด สถานภาพการสมรส หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน หมายเลขหนังสือเดินทาง หมายเลขอื่น ๆ รวมถึงข้อมูลส่วนตัวที่ปรากฏอยู่บนเอกสารที่รัฐออกให้เพื่อใช้ในการยืนยันตัวตน หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี สัญชาติ รูปปรากฎในหนังสือเดินทาง ใบอนุญาตขับขี่ ลายมือชื่อ ข้อมูลการยืนยันตัวตน ข้อมูลที่ธนาคารได้รับจากท่านจากคำถามยืนยันตัวตนของบริษัทฯ (เช่น รหัสผ่าน คำตอบในกรณีที่ท่านลืมรหัสผ่าน PINs ข้อมูลการจดจำใบหน้าและเสียง เป็นต้น) ภาพถ่าย และภาพจากกล้องวงจรปิด (CCTV)
  • ข้อมูลครอบครัว: ชื่อ และข้อมูลการติดต่อของสมาชิกในครอบครัว รวมทั้งคู่สมรส และบุตร
  • ข้อมูลการติดต่อ: ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล์ และรายละเอียดโปรไฟล์ผ่านทางโซเชียลมีเดีย (social media)
  • ข้อมูลการศึกษา: รายละเอียดเกี่ยวกับการศึกษา และคุณสมบัติของท่าน
  • ข้อมูลทางการเงิน:  ที่อยู่สำหรับการเรียกเก็บเงิน ข้อมูลบัญชีธนาคาร หมายเลขบัตรเครดิต ชื่อผู้ถือบัตรหรือรายละเอียดบัญชี บันทึกคำสั่ง รายละเอียดธุรกรรม และรายละเอียดคู่สัญญา
  • ข้อมูลการทำธุรกรรม: ชื่อนามสกุลของผู้รับประโยชน์ ที่อยู่ และรายละเอียดอื่น ๆ รวมถึงการติดต่อสื่อสารเกี่ยวกับการโอนเงินผ่านธนาคารของธุรกรรมที่เกี่ยวข้อง
  • ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์: ที่อยู่ IP คุกกี้ บันทึกกิจกรรม ข้อมูลระบุตัวตน ตัวระบุออนไลน์ ค่าเอกลักษณ์ประจำอุปกรณ์ (unique device identifiers) และข้อมูลตำแหน่งทางภูมิศาสตร์
  • ข้อมูลจากกล้องวงจรปิด (CCTV) และข้อมูลทางภูมิศาสตร์: ข้อมูลที่แสดงถึงตำแหน่งการถอนเงิน หรือการชำระเงินเพื่อเหตุผลด้านความปลอดภัย หรือเพื่อระบุตำแหน่งของสาขาธนาคาร หรือผู้ให้บริการที่ตั้งอยู่ใกล้เคียงกับท่าน
  • ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อน (Sensitive personal data): ข้อมูลส่วนบุคคลที่กฎหมายกำหนดเป็นการเฉพาะ ซึ่งรวมถึงข้อมูลของท่านเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อท่านในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด

2.    การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากเจ้าของข้อมูลโดยตรง และการนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้ รวมถึงการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทฯ จะขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลก่อนหรือขณะทำการเก็บรวบรวม หากกฎหมายกำหนดให้ต้องขอความยินยอม และจะดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ที่บริษัทฯ ระบุไว้โดยแจ้งชัด

บริษัทฯเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลหลากหลายประเภท โดยประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯเก็บรวบรวมนั้น ขึ้นอยู่กับแต่ละสถานการณ์ และสภาพของผลิตภัณฑ์ บริการ และ/หรือธุรกรรมที่ท่านร้องขอ

บริษัทฯเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากแหล่งข้อมูลที่หลากหลายดังต่อไปนี้

  • เมื่อท่านซื้อผลิตภัณฑ์ และ/หรือสมัครใช้บริการของบริษัทฯ
  • บทสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างท่านกับบริษัทฯ หรือสำนักงานสาขา รวมถึงการบันทึกการสนทนาทางโทรศัพท์ อีเมล์ บันทึกข้อความ หรือวิธีการอื่นใด
  • เมื่อท่านเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ หรือใช้แอพพลิเคชั่นของบริษัทฯผ่านทางมือถือ ซึ่งรวมถึงคุกกี้ และซอฟต์แวร์ทางอินเทอร์เน็ตอื่น ๆ เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมผ่านทางนโยบายสำหรับคุกกี้ของบริษัทฯ
  • ข้อมูลที่ได้จากเอกสารเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนกรมธรรม์ประกันภัย หรือเอกสารอื่น ๆ
  • การตรวจสอบ และคำชี้แจงใด ๆ ที่เกี่ยวกับการเงิน
  • แบบสำรวจลูกค้า
  • เมื่อท่านเข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการขายกับบริษัทฯ
  • เมื่อท่านทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านปรากฎแก่สาธารณะอย่างชัดแจ้ง รวมถึงเปิดเผยข้อมูลผ่านทางโซเชียลมีเดีย (social media) ในกรณีดังกล่าว บริษัทฯจะเลือกเก็บรวบรวมเฉพาะข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านเลือกให้ปรากฎต่อสาธารณะเท่านั้น
  • เมื่อบริษัทฯได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากบุคคลที่สาม เช่น นายจ้างของท่าน ลูกค้าของบริษัทฯ หน่วยงานที่เก็บรวบรวมข้อมูลเครดิต เจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีอำนาจ หรือหน่วยงานของรัฐอื่นใด เป็นต้น

ทั้งนี้บริษัทฯ อาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากแหล่งอื่นที่ไม่ใช่จากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรง จากแหล่งข้อมูลออนไลน์ และออฟไลน์เพิ่มเติม รวมถึงการเก็บรวบรวมในเชิงพาณิชย์จากแหล่งข้อมูลของบุคคลที่สาม เช่น จากสื่อสาธารณะต่าง ๆ เฉพาะในกรณีที่มีความจำเป็นด้วยวิธีการตามที่กฎหมายกำหนด บริษัทฯอาจรวมข้อมูลนี้เข้ากับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทฯเก็บรวบรวมภายใต้ประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้

ในบางกรณี บริษัทฯอาจว่าจ้างบุคคลภายนอกที่ไม่ใช่บริษัทในกลุ่มเพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับกิจกรรมทางออนไลน์ของท่านเมื่อท่านเข้าเยี่ยมชมแหล่งข้อมูลออนไลน์ของบริษัทฯ นอกจากนี้ บริษัทฯยังอาจใช้ข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมจากเว็บไซต์ที่ไม่ใช่ของบริษัทในกลุ่มเพื่อวัตถุประสงค์ในการโฆษณาที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการเข้าชมของท่าน ทั้งนี้ หากบริษัทฯได้ดำเนินการดังกล่าวนี้ บริษัทฯจะแจ้งเตือน และเสนอทางเลือกที่เหมาะสมเพื่อให้ท่านสามารถปฏิเสธการเก็บรวบรวมดังกล่าวได้

3. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้

  • เพื่อประโยชน์ในการจัดหาหรือจำหน่ายผลิตภัณฑ์ การให้หรือรับบริการในรูปแบบต่าง ๆ
  • เพื่อการทำธุรกรรมทางการเงิน และภาษี ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติตามสัญญาของบริษัทฯ
  • การค้นคว้า หรือการวิจัย
  • เพื่อประโยชน์ในการจัดทำฐานข้อมูลสำหรับการวิเคราะห์และนำเสนอบริการหรือผลิตภัณฑ์ใด ๆ ของบริษัทฯ และบริษัทในกลุ่ม หรือบุคคลที่เป็นผู้จำหน่าย เป็นตัวแทน หรือมีความเกี่ยวข้องกับบริษัทฯ
  • เพื่อประโยชน์ในการปรับปรุงคุณภาพในการดำเนินงาน การให้บริการ และการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของบริษัทฯ
  • เพื่อการวิเคราะห์และติดตามการใช้บริการทางเว็บไซต์ และวัตถุประสงค์ในการตรวจสอบย้อนหลังในกรณีที่เกิดปัญหาการใช้งาน
  • เพื่อการเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ของบริษัทฯ
  • เพื่อยืนยันตัวตนหรือตรวจสอบตัวตน
  • เพื่อวัตถุประสงค์ในการควบคุมการเข้าถึง การป้องกันและระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่านหรือบุคคลอื่น การควบคุมและป้องกันโรคติดต่อ และเพื่อประโยชน์ในการดูแลรักษาความปลอดภัย ของบริเวณอาคาร ภายในอาคาร และพื้นที่ของบริษัทฯ
  • เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายหรือกฎระเบียบที่ใช้บังคับกับบริษัทฯ ทั้งในปัจจุบันและ ในอนาคต

บริษัทฯอาจเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเฉพาะในกรณีที่บริษัทฯมีเหตุผลที่เหมาะสมในการดำเนินการเช่นว่านั้น ทั้งนี้ รวมถึงการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้กับบุคคลภายนอกด้วย

บริษัทฯจะใช้ฐานทางกฎหมายอย่างน้อยหนึ่งฐานต่อไปนี้ในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

  • เมื่อเป็นการปฏิบัติตามข้อตกลงในสัญญาที่บริษัทฯทำไว้กับท่าน (ฐานการปฏิบัติตามสัญญา) – กล่าวคือ เมื่อบริษัทฯต้องการข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อที่จะให้บริการแก่ท่านตามสัญญา หรือก่อนที่บริษัทฯจะเข้าทำสัญญากับท่าน
  • เมื่อเป็นหน้าที่ตามกฎหมายของบริษัทฯ (ฐานหน้าที่ตามกฎหมาย) – กล่าวคือ เมื่อบริษัทฯมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย หรือภาระข้อผูกพันตามกฎหมาย
  • เมื่อเป็นผลประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ  (ฐานผลประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมาย) – กล่าวคือ เมื่อบริษัทฯเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อผลประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯตามที่กฎหมายอนุญาต เว้นแต่ผลประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯนั้นมีความสำคัญน้อยกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานของท่าน และ/หรือ
  • เมื่อท่านให้ความยินยอม (ฐานความยินยอม) – กล่าวคือ เมื่อท่านให้ความยินยอมแก่บริษัทฯในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ใดวัตถุประสงค์หนึ่ง

ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ ดำเนินการเก็บรวบรวมเพื่อวัตถุประสงค์ข้างต้นเป็นข้อมูลที่จำเป็นในการปฏิบัติตามสัญญาหรือการปฏิบัติตามกฎหมายต่าง ๆ ที่ใช้บังคับ หากท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นดังกล่าว อาจเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย หรือบริษัทฯ อาจไม่สามารถบริหารหรือจัดการสัญญา หรืออำนวยความสะดวกในการดำเนินการต่างๆ ให้กับท่านได้

ทั้งนี้หากภายหลังมีการเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทฯ จะแจ้งให้ท่านทราบ และดำเนินการอื่นใดตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงจัดให้มีบันทึกการแก้ไขเพิ่มเติมไว้เป็นหลักฐาน

เว้นแต่ได้กำหนดไว้ในประกาศความเป็นส่วนตัวนี้ บริษัทฯจะไม่ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์อื่นนอกเหนือจากวัตถุประสงค์ตามที่ระบุไว้ในประกาศความเป็นส่วนตัวนี้ หากบริษัทฯจะเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งไม่ได้ระบุไว้ในประกาศความเป็นส่วนตัวนี้ บริษัทฯจะแจ้งให้ท่านทราบ และขอความยินยอมจากท่านก่อนการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผย เว้นแต่ในกรณีที่กฎหมายอนุญาตให้บริษัทฯดำเนินการดังกล่าวได้โดยไม่ต้องอาศัยความยินยอมของท่าน ท่านมีสิทธิให้ความยินยอม หรือปฏิเสธการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

4.    การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับบุคคลอื่นในกรณีที่สามารถทำได้ตามกฎหมาย รวมถึงกรณีดังต่อไปนี้ที่บริษัทฯ หรือบุคคลอื่นดังกล่าว

  • จำเป็นต้องปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญาที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ หรือบริการ (เช่น เพื่อปฏิบัติตามคำขอชำระเงิน เป็นต้น)
  • มีหน้าที่ตามกฎหมายในการกระทำการดังกล่าว (เช่น เพื่อสืบหา และป้องกันการทุจริต การหลบหลีกภาษี อาชญากรรมทางการเงิน ป้องกันการฟอกเงิน)
  • จำเป็นต้องรายงานตามกฎหมาย ดำเนินคดี ใช้สิทธิตามกฎหมาย หรือปกป้องสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
  • กระทำไปเพื่อผลประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ (เช่น เพื่อบริหารความเสี่ยง ยืนยันตัวตน ให้บริษัทอื่นสามารถให้บริการตามที่ท่านร้องขอได้ หรือประเมินความเหมาะสมของท่านต่อผลิตภัณฑ์ และ/หรือบริการ) และ/หรือ
  • ขอความยินยอมจากท่านในการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว และท่านให้ความยินยอม

บริษัทฯอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ที่กล่าวข้างต้นให้กับบุคคลอื่นดังต่อไปนี้

  • บริษัทอื่น ๆ ในกลุ่มของบริษัทฯ และผู้รับเหมาช่วง ตัวแทน หรือผู้ให้บริการที่ทำงานให้บริษัทฯ หรือให้บริการแก่บริษัทฯ หรือแก่บริษัทอื่น ๆ ในกลุ่มของบริษัทฯ รวมถึงพนักงาน ผู้รับเหมาช่วง ผู้ให้บริการ กรรมการ และเจ้าหน้าที่ของผู้ให้บริการดังกล่าวนี้ด้วย รวมถึงคู่ค้าของบริษัทฯ
  • ผู้ได้รับมอบหมายให้จัดการดูแลทรัพย์สิน หรือผลประโยชน์ใด ๆ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ หรือเจ้าพนักงานบังคับคดี
  • บุคคลที่ค้ำประกัน หรือวางหลักทรัพย์อื่น ๆ ตามจำนวนที่ท่านมีภาระต้องชำระให้กับบริษัทฯ
  • บุคคลใด ๆ ที่ท่านได้ชำระเงินให้ และ/หรือได้รับการชำระเงิน
  • ตัวแทน ตัวแทนของบริษัทฯ แผนกการเงิน ระบบการชำระเงิน คู่ค้า และบริษัทอื่น ๆ ที่ท่านลงทุนผ่านบริษัทฯ
  • สถาบันการเงินอื่น ผู้ให้กู้ และผู้ถือหลักประกัน เจ้าหน้าที่กรมสรรพากร สมาคมการค้า หน่วยงานที่เก็บรวบรวมข้อมูลเครดิต ผู้ให้บริการการชำระเงิน และตัวแทนเรียกชำระหนี้
  • ผู้จัดการกองทุนใด ๆ ที่ให้บริการด้านการจัดการสินทรัพย์ให้กับท่าน และโบรกเกอร์ใด ๆ ที่แนะนำท่านให้กับบริษัทฯ
  • บุคคล หรือบริษัทใด ๆ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการปรับโครงสร้างบริษัท การควบรวม หรือเข้าถือครองกิจการที่เกิดขึ้น หรืออาจเกิดขึ้น โดยรวมถึงการโอนสิทธิ หรือหน้าที่ใด ๆ ซึ่งบริษัทฯ มีอยู่ภายใต้สัญญาระหว่างบริษัทฯ และท่าน
  • หน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมาย รัฐบาล ศาล กระบวนการทางศาล หน่วยงานระงับข้อพิพาท ผู้กำกับดูแลบริษัทฯ ผู้ตรวจสอบบัญชี และบุคคลใด ๆ ซึ่งแต่งตั้ง หรือร้องขอโดยผู้กำกับดูแลบริษัทฯให้ทำการตรวจสอบกิจกรรมการดำเนินงานของบริษัทฯ
  • บุคคลอื่นใดซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับข้อพิพาทใด ๆ ที่เกิดขึ้น รวมถึงข้อพิพาทที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรม
  • หน่วยงานป้องกันการทุจริตซึ่งใช้ข้อมูลดังกล่าวเพื่อสืบหา และป้องกันการทุจริต และอาชญากรรมทางการเงินอื่น ๆ และเพื่อยืนยันตัวตนของท่าน
  • บุคคลใด ๆ ที่ออกคำสั่ง หรือบริหารจัดการบัญชีของท่าน ผลิตภัณฑ์ หรือบริการในนามของท่าน (เช่น ผู้รับมอบอำนาจ ทนายความ เป็นต้น)
  • บุคคลใด ๆ ที่บริษัทฯ ได้รับคำสั่งจากท่านให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับบุคคลดังกล่าว และ/หรือ
  • ฝ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาดใด ๆ

5.    การเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ตราบเท่าที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลดังกล่าวเท่านั้น กล่าวคือ เพื่อวัตถุประสงค์ในการรายงานตามกฎหมาย เพื่อให้บริการตามที่ท่านร้องขอ หรือเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

โดยจัดเก็บในรูปแบบเอกสาร และ/หรือข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ และจัดเก็บในสถานที่ที่มีการจำกัดสิทธิเข้าถึง เช่น เก็บไว้ใน Server หรือเก็บไว้บน Cloud ที่เป็นผู้ให้บริการของบริษัท เป็นต้น

บริษัทฯจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นเวลา 10 ปีภายหลังจากที่ท่านไม่ได้เป็นลูกค้าของบริษัทฯ แล้ว ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ของบริษัทฯในการดำเนินข้อพิพาททางสัญญาใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นนั้นในระยะเวลาดังกล่าว เว้นแต่กรณีที่มีเหตุผลทางกฎหมาย หรือเหตุผลทางเทคนิครองรับ บริษัทฯอาจเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้นานกว่า 10 ปีได้ หากบริษัทฯไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเก็บรักษาข้อมูลของท่านแล้ว บริษัทฯจะทำลาย ลบ หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ (เพื่อที่ข้อมูลดังกล่าวจะไม่มีความเชื่อมโยงถึงท่านอีกต่อไป)

6. ผู้เยาว์ บุคคลไร้ความสามารถ บุคคลเสมือนไร้ความสามารถ

บริษัทฯ จะไม่ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลนั้นจนกว่าจะได้รับความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครอง หรือผู้อนุบาล หรือผู้พิทักษ์ แล้วแต่กรณี ทั้งนี้ เป็นไปตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด

หากบริษัทฯ ไม่ทราบมาก่อนว่าเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นผู้เยาว์ บุคคลไร้ความสามารถ บุคคลเสมือนไร้ความสามารถ และได้ตรวจพบในภายหลังว่าบริษัทฯ ได้เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวไปแล้วโดยปราศจากความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครอง หรือผู้อนุบาล หรือผู้พิทักษ์ แล้วแต่กรณี บริษัทฯ จะดำเนินการลบทำลายข้อมูลส่วนบุคคลนั้นโดยเร็วหากไม่มีเหตุอื่นใดอันชอบด้วยกฎหมายที่จะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวได้

7.   การรักษาความมั่นคงปลอดภัย

บริษัทฯ กำหนดให้มีมาตรการที่เหมาะสม และเข้มงวดในการรักษาความมั่นคงปลอดภัย ตามนโยบายและแนวปฏิบัติในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของบริษัทฯ เพื่อป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง ทำลาย ใช้ แปลง แก้ไขหรือมิให้มีการนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้โดยไม่มีสิทธิหรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย

8. สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

ในฐานะที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลท่านมีสิทธิตามที่กำหนดไว้โดยพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 รวมถึงสิทธิต่าง ๆ ดังนี้

8.1 สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม

ท่านมีสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมกับบริษัทฯ ได้ เว้นแต่การเพิกถอนความยินยอมจะมีข้อจำกัดโดยกฎหมายหรือสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่าน ในฐานะที่ท่านเป็นเจ้าของข้อมูล

ทั้งนี้ การเพิกถอนความยินยอมจะไม่ส่งผลกระทบต่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่าน ได้ให้ความยินยอมไปแล้วโดยชอบด้วยกฎหมาย

8.2 สิทธิในการขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านมีสิทธิขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลของท่านซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของบริษัทฯ รวมถึงขอให้บริษัทฯ เปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลดังกล่าวที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอมต่อบริษัทฯ ได้

8.3 สิทธิในการขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทฯ โอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ท่านให้ไว้กับบริษัทฯ ได้ตามที่กฎหมายกำหนด

8.4 สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านมีสิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลที่เกี่ยวกับท่านสำหรับกรณีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนได้ตามที่กฎหมายกำหนด

8.5 สิทธิในการขอลบข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ลบหรือทำลายหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ตามที่กฎหมายกำหนด

8.6 สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ระงับการใช้ข้อมูลของท่านได้ตามที่กฎหมายกำหนด

8.7 สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง

กรณีที่ท่านเห็นว่าข้อมูลที่บริษัทฯ มีอยู่นั้นไม่ถูกต้องหรือท่านมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเอง ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทฯ แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

8.8 สิทธิในการรับทราบกรณีมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงแบบแจ้งเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

บริษัทฯ อาจมีการพิจารณาทบทวนและแก้ไขเปลี่ยนแปลงแบบแจ้งนี้ตามความเหมาะสม ในบางครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะได้รับความคุ้มครองอย่างเหมาะสม

8.9 สิทธิในการร้องเรียน

ท่านมีสิทธิในการร้องเรียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หากบริษัทฯ ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติดังกล่าวได้

ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลยื่นคำร้องขอใช้สิทธิภายใต้บทบัญญัติของพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 เมื่อบริษัทฯ ได้รับคำร้องขอดังกล่าวแล้ว จะดำเนินการภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด อนึ่ง บริษัทฯ สงวนสิทธิที่จะปฏิเสธหรือไม่ดำเนินการตามคำร้องขอดังกล่าวได้ในกรณีที่กฎหมายกำหนด ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลมีข้อจำกัดโดยเลือกที่จะให้ข้อมูลส่วนบุคคลเฉพาะอย่าง อาจส่งผลให้ ไม่สามารถได้รับบริการจากบริษัทฯได้อย่างเต็มที่ รวมทั้งบริษัทฯ อาจจะไม่สามารถทำงานร่วมกับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลหรือให้บริการใด ๆ ได้ หากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่ยินยอมให้ข้อมูลที่บริษัทฯ ต้องการ

9. นโยบายคุกกี้ (Cookies)

บริษัทฯ เก็บรวบรวมและใช้คุกกี้รวมถึงเทคโนโลยีอื่นในลักษณะเดียวกันในเว็บไซต์ที่อยู่ภายใต้ความดูแลของบริษัทฯ หรือบนอุปกรณ์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ เพื่อการดำเนินการด้านความปลอดภัยในการให้บริการของบริษัทฯ และให้ผู้ใช้งานได้รับความสะดวกและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานบริการของบริษัทฯ โดยข้อมูลเหล่านี้จะถูกนำไปเพื่อปรับปรุงเว็บไซต์ของบริษัทฯ ให้ตรงกับความต้องการของท่านมากยิ่งขึ้น โดยท่านสามารถตั้งค่าหรือลบการใช้งานคุกกี้ได้ด้วยตนเองจากการตั้งค่าในเว็บเบราว์เซอร์ (web Browser) ของท่าน ทั้งนี้ สามารถศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับนโยบายคุกกี้ โดยคลิกที่นี่

10.  หน้าที่ของท่าน

ท่านมีหน้าที่ตรวจสอบว่า ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้ไว้กับบริษัทฯ ไม่ว่าจะด้วยตัวของท่านเอง หรือในนามของท่าน มีความถูกต้อง และเป็นปัจจุบัน และมีหน้าที่ต้องแจ้งให้บริษัทฯทราบโดยเร็วที่สุดหากข้อมูลดังกล่าวมีการเปลี่ยนแปลง

เมื่อท่านเข้าทำสัญญากับบริษัทฯแล้ว ท่านจะมีหน้าที่ตามสัญญาในการส่งมอบข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บริษัทฯ เพื่อให้ท่านสามารถใช้สิทธิทางกฎหมายได้ การไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ดังกล่าวอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียสิทธิทางกฎหมาย

ท่านมีความจำเป็นที่จะต้องส่งมอบข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ข้อมูลการติดต่อ และข้อมูลการจ่ายเงินให้กับบริษัทฯ เพื่อให้บริษัทฯสามารถเข้าทำสัญญากับท่านได้ หากท่านไม่ส่งมอบข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว อาจทำให้บริษัทฯไม่สามารถใช้สิทธิ และปฏิบัติตามภาระข้อผูกพันที่เกิดขึ้นจากสัญญาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

11. การส่งหรือโอนข้อมูลไปต่างประเทศ

บริษัทฯอาจมีความจำเป็นต้องส่งข้อมูลของลูกค้าไปยังต่างประเทศ กรณีที่บริษัทฯจำเป็นต้องส่งข้อมูลไปยังต่างประเทศ บริษัทฯจะส่งข้อมูลก็ต่อเมื่อเป็นไปตามเงื่อนไขอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้

• ประเทศปลายทางที่รับข้อมูลได้รับการวินิจฉัยจากคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลว่ามีการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอ

• หน่วยงานต่างประเทศที่รับข้อมูลอยู่ภายใต้นโยบายในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับการตรวจสอบและรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

• กรณีที่ประเทศปลายทางมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่เพียงพอ บริษัทฯ จะดูแลให้มั่นใจว่าการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด และจะดำเนินการให้มีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เห็นว่าจำเป็นและเหมาะสมสอดคล้องกับมาตรฐานการรักษาความลับ เช่น มีข้อตกลงกับผู้รับข้อมูลในประเทศดังกล่าวเพื่อยืนยันว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะได้รับการคุ้มครองภายใต้มาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เทียบเท่ากับประเทศไทย

• เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อการใช้สิทธิตามกฎหมาย

• ได้รับความยินยอมจากท่านโดยท่านได้รับทราบถึงมาตรฐานการคุ้มครองส่วนบุคคลที่ไม่เพียงพอของประเทศปลายทางหรือองค์การระหว่างประเทศที่รับข้อมูลส่วนบุคคลแล้ว

• เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญาหรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญานั้น

• เป็นการกระทำตามสัญญาระหว่างบริษัทฯกับบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นเพื่อประโยชน์ของท่าน

• เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล เมื่อบุคคลดังกล่าวไม่สามารถให้ความยินยอมในขณะนั้นได้

• เป็นการจำเป็นเพื่อการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ

12.   การแก้ไขประกาศความเป็นส่วนตัว

บริษัทฯจะตรวจสอบประกาศความเป็นส่วนตัวอย่างสม่ำเสมอ ดังนั้น ประกาศความเป็นส่วนตัวนี้ จึงอาจมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลง สำหรับการแก้ไขเปลี่ยนแปลงครั้งล่าสุดนั้น สามารถดูได้จากวันที่ด้านบนของประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้

13.   ช่องทางการติดต่อบริษัทฯ

ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือต้องการใช้สิทธิใด ๆ โปรดติดต่อบริษัทฯ ที่

บริษัท บุญถาวรเซรามิค จำกัด และบริษัทในเครือ

สถานที่ติดต่อ : 61 ซ.รุ่งเรือง ถ.สุทธิสารวินิจฉัย แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กทม. 10310

เบอร์โทรศัพท์ : 02-657-1111

เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

สถานที่ติดต่อ :  61 ซ.รุ่งเรือง ถ.สุทธิสารวินิจฉัย แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กทม. 10310

อีเมล : DPO@boonthavorn.com

หมายเหตุ

  • ประกาศความเป็นส่วนตัวนี้มีผลใช้บังคับเมื่อบทบัญญัติของพระราชบัญญัติคุ้มครองส่วนบุคคล พ.ศ.2562 (ตามที่อาจมีการแก้ไขเพิ่มเติม) ที่เกี่ยวข้องมีผลใช้บังคับกับบริษัทฯ